COVID-19 ระลอกที่ 5 น่ากลัวเพียงใด?
COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน กำลังแพร่ระบาดอย่างแพร่หลาย ทั้งในจังหวัดระยอง และทั่วประเทศไทย หมอหลายท่านคิดว่า การแพร่ระบาดในครั้งนี้เป็น wave ที่ 5 ของประเทศไทย น่าจะกินเวลาอย่างน้อย 2 – 3 เดือน และน่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่าคราวที่แล้ว อย่างไรก็ดีหมอคิดว่า อาการน่าจะรุนแรงน้อยลงกว่าเมื่อช่วงประมาณ 4 – 6 เดือนที่แล้ว แต่ว่าอาการที่น้อยลง ไม่ได้แปลว่าอาการน้อย อาการที่น้อยลงเราก็ยังคงต้อง สังเกตและจะต้องดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะหากเกิดติดเชื้อจะเสี่ยงต่อการเกิดโรครุนแรงได้
เมื่อไรที่เราต้องตรวจ COVID-19?
เมื่อไรที่จะต้องตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด-19 ขอแบ่งเป็น 2 กรณี ด้วยกัน คือ สำหรับผู้ที่มีอาการ และผู้ที่ไม่มีอาการ
กรณี 1) สำหรับผู้ที่ ไม่มีอาการ และได้มี ประวัติสัมผัส กับผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่ได้รับ เชื้อโควิด-19 มาแล้ว แนะนำให้ ตรวจหาเชื้อ โดยควรตรวจ หลังจากสัมผัส ผู้ติดเชื้อมาแล้ว 3 – 5 วัน ในระหว่างนี้ ให้ใส่หน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่าง ตรวจสอบตัวเอง ว่าได้รับวัคซีน ครบแล้ว หรือยัง ถ้าเกิดว่าฉีดวัคซีนครบโดส หรือฉีดครบ 2 เข็มแล้ว บวกกับ ได้รับวัคซีน เข็มกระตุ้น หรือ Booster Dose แล้ว ไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องกักแยกตัวเอง ให้ใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง และสามารถ ใช้ชีวิตได้ ตามปกติ
กรณี 2) สำหรับผู้ป่วย ที่มีอาการ อาการที่ว่านี้ ก็คือ อาการเกี่ยวกับ ระบบทางเดินหายใจส่วนบน ในภาวะที่ มีการแพร่ระบาด อย่างรุนแรง แนะนำให้ ตรวจทุกราย ในผู้ที่มี อาการเหล่านี้ ได้แก่ อาการไข้ ไอ ปวดตัว เจ็บคอมาก มีน้ำมูก เคืองคอ ปวดตัว แบบไม่ทราบสาเหตุ
ข้อดี หรือประโยชน์ ของการตรวจหา เชื้อก่อโรคโควิด-19 นี้ คือ เมื่อไรก็ตาม ที่เรารู้ว่า เราได้รับเชื้อมา เราจะได้ แยกตัว ออกมาอย่างน้อย 10 วัน เพื่อลด ความเสี่ยง ในการที่จะ แพร่กระจายเชื้อ ให้ผู้ป่วยท่านอื่นๆ อีกทั้งเรา จะได้สบายใจ ด้วยว่าเราไม่ได้รับ เชื้อมา
ผลตรวจ ATK เป็นบวก เอายังไงต่อดี?
เมื่อเรา ตรวจ ATK ด้วยตนเองแล้ว ขึ้นสองขีด หมายถึง ผลเป็น Positive (+) ต้องทำ อย่างไรต่อดี? อย่างที่ได้กล่าว ไปข้างต้นว่า ผลตรวจของ ATK มีความแม่นยำ ประมาณ 60 – 90% ซึ่งอาจจะ มีผลบวกลวง หรือผลลบลวงได้
- ผลลบลวง (False Negative) หมายถึง เป็นผู้ติดเชื้อ แต่ให้ ผลการทดสอบ เป็นลบ (-)
- ผลบวกปลอม (False Positive) หมายถึง ไม่ได้ติดเชื้อ แต่ให้ ผลการทดสอบ เป็นบวก (+)
หากตรวจ ATK ด้วยตนเองแล้ว ผลเป็นบวก (+) สำหรับ คน จังหวัดระยอง แนะนำให้ ลงทะเบียนตามลิงค์ หรือสแกน QR CODE ตามรูป ด้านบนได้เลย โดยในระหว่าง ที่รอทีมสอบสวนโรค ให้แยกตัวจาก คนในครอบครัว ก่อน สวม หน้ากากอนามัย ตลอดเวลา คำนึงเสมอว่า เรายังสามารถแพร่เชื้อ ให้คนอื่นๆ ในครอบครัวได้ ที่สำคัญ อย่าเพิ่งตกใจ หรือกังวลไป ให้รีบลงทะเบียนตามลิงค์ หรือสแกน QR CODE ตามรูป ด้านบน ก่อน อาจจะติดต่อโทร.1330 สายด่วนสปสช. หรือสำหรับคนน้ำคอก คลิกที่นี่
หากมี เหตุจำเป็น สงสัย หรือต้องการ ความช่วยเหลือ เร่งด่วน กรุณา ติดต่อ ทางใดทางหนึ่ง ต่อไปนี้
1. รพ.สต.น้ำคอก โทร. 0890229965, 0877059797
2. กองป้องกัน และบรรเทา สาธารณภัย เทศบาลตำบล น้ำคอก โทร. 038017100
3. กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน ตำบล น้ำคอก โทร. 0867797642, 0964105111, 0866632100, 0853477109
4. อสม.ที่รู้จัก หรือ ส่งข้อความ มาที่ https://www.facebook.com/nkhealthy2017
หลังจากที่ ลงทะเบียนแล้ว ทีมสอบสวนโรค จะออกไป สอบสวนโรค ถึงบ้าน ในวันรุ่งขึ้น ยกเว้น มีผู้ลงทะเบียนมาก จะโทรตาม ให้ท่านมา ทำการสอบสวนโรค ที่ รพ.สต.น้ำคอก แทน
*กรุณา กรอกข้อมูล ให้ถูกต้อง และครบถ้วน ก่อนเข้ารับการตรวจ Covid-19
กรณีที่ ผลการตรวจ ATK เป็นบวก ทีมสอบสวนโรค จะประเมิน การรักษาโดยแบ่ง คนไข้ออก เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ ไม่ต้องนอน โรงพยาบาล จะเป็นกลุ่มผู้ป่วย สีเขียว (กลุ่มผู้ป่วยสีเขียว คือ ผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย) และกลุ่มผู้ป่วย ที่ไม่มีความเสี่ยง ที่จะเกิด โรครุนแรง ในภายหลัง
กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ ความเสี่ยงที่จะ เกิดโรครุนแรง ในภายหลัง โดยจะเป็น กลุ่มผู้ป่วย ที่อายุมาก โดยมีอายุ ตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไป หรือว่ามีโรคประจำตัว ที่อาจจะทำให้ โควิด-19 รุนแรงขึ้น ถึงแม้ว่า จะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ก็ตาม
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่
ผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 แบบไหน? เข้าเกณฑ์การทำ Home Isolation
Home Isolation หรือการกักตัว ที่บ้าน คือ อีกหนึ่งวิธี ในการดูแล ตัวเอง สำหรับผู้ป่วย ที่อยู่ในกลุ่ม สีเขียว ที่ไม่มี อาการแสดง หรือแสดงอาการ เพียงเล็กน้อย สำหรับผู้ป่วย ที่แพทย์ประเมินแล้ว ว่าสามารถรักษาตัว อยู่ที่บ้านได้
การทำ Home Isolation จะต้องไม่ใช่ ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง เป็นผู้ป่วยที่ ไม่มีอาการ และไม่มีอาการ ปอดอักเสบ ส่วนกลุ่มที่ มีความเสี่ยงสูง จะต้องมารับการรักษาตัว ในโรงพยาบาล ได้แก่
- ผู้ป่วยที่มีอาการมาก เช่น ไข้สูงมาก
- น้ำหนักตัวมาก, BMI หรือดัชนีมวลกาย มากกว่า 28
- ไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน
- ผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบตั้งแต่แรก
สำหรับคนน้ำคอก ทีมสอบสวนโรค จะมีการคัดแยก ผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม คือ
1) กลุ่มผู้ป่วยที่ จะต้องรักษาตัว ที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาล จะมีการโทรศัพท์แจ้ง ให้เตรียมตัว และจะส่งรถ ไปรับที่บ้าน เพื่อมาทำการรักษา ต่อไป
2) สำหรับกลุ่มที่ ไม่จำเป็นที่ จะต้องนอน โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะมี Hotel Isolation ซึ่งการประเมิน วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่ กับลักษณะต่างๆ และอาการของ ผู้ป่วยที่ ได้ระบุไว้ข้างต้น

